|
|
บ้านประหยัดพลังงานคืออะไร
ย้อนยุคไปสมัยก่อน บ้านประหยัดพลังงานที่ดีที่สุดก็คือ บ้านทรงไทย เพราะบ้านทรงไทย ไม่ใช้พลังงานเลย เราอยู่กับธรรมชาติเพราะธรรมชาติเย็นข้างนอกเย็น ข้างในก็เย็น เปิดรับลม เพื่อเอาลมเย็นเข้ามา แต่หลังจากนั้น เมื่อเทคโนโลยีเจริญขึ้นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพสังคมสูงขึ้น อากาศเริ่มร้อนขึ้น ในเมืองมีการตัดไม้ทำลายป่า มีแต่ป่าคอนกรีต การก่อสร้างของเมืองที่เพิ่มขึ้น ทำให้อากาศข้างนอกร้อนขึ้น
แนวคิดสำคัญคือ สร้างเทคนิคกันความร้อนเข้าบ้าน กันความชื้นเข้าบ้าน และหาประโยชน์จากธรรมชาติ มันก็ลงไปที่การใช้เทคนิคการออกแบบยุคใหม่ที่ต้องเข้าใจทิศทางแดด ทิศทางลม ทิศทางการกันแดด ทิศทางระบายอากาศอย่างถูกต้อง
หัวใจสำคัญที่สุดเป็นเรื่องของการใช้วัสดุ เบอร์หนึ่งคือหน้าต่าง ประตู ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุด หน้าต่างและประตูทั้งหลายสมัยก่อนเราใช้ไม้ พอเราติดแอร์ขึ้นมามันมีการหด การยืด โดยเฉพาะหน้าร้อนไม้มีการหดตัวรุนแรง
หน้าหนาวไม้หดตัวรุนแรงทำให้รูรั่วเยอะมาก
เมื่อเกิดรูรั่วเยอะมากเวลาลมพัดมาลมก็หอบทั้งความร้อนความชื้นเข้ามา ทำให้แอร์ใช้พลังงานมหาศาล ก็เลยเกิดหน้าต่างพีวีซี หน้าต่างพีวีซีเป็นหน้าต่างที่สามารถแก้ปัญหา
เรื่องการรั่วซึมหรือรอยแตก รอยหด เพราะหน้าต่างพีวีซีไม่หดและทนทานต่อแสงยูวี
พอมาถึงตรงนี้เรื่องประตูหน้าต่างก็เลยเป็นปัจจัยสำคัญ
ว่าจะออกแบบประตูหน้าต่างอย่างไรให้กันได้ทั้งร้อน กันได้ทั้งชื้น กันได้ทั้งการรั่วซึมของอากาศ กันได้ทั้งความปลอดภัยต่อการงัดแงะ ต่อการทุบทำลาย ขณะเดียวกันให้แสงเข้ามามากความร้อน
เข้ามาน้อยความชื้นไม่เข้ามา มันก็เลยกลายเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า หน้าต่างพีวีซีทั้งชุด
พอประตู หน้าต่างดีมากแล้ว ฉนวนบ้านก็ต้องดีหลายคนคิดว่าฉนวนใช้แต่เฉพาะบริเวณหลังคา แต่ว่าความจริงต้องใช้ทั้งบ้าน คือทั้งหลังคาและผนังรอบ ๆ บ้านทุกด้าน เช่น ผนังใช้ฉนวน 4 นิ้ว
หลังคาใช้ฉนวน 9 นิ้ว
ฉนวน 4 นิ้ว กันความร้อนได้มากกว่าการฉาบปูนผนังเกือบ 20 เท่า ฉนวน 9 นิ้ว
กันความร้อนประมาณ 20-25 เท่า
อันดับต่อไปต้องคำนึงถึงการบำรุงรักษา ทำไงถึงให้การบำรุงรักษาง่าย มีซอก มีมุม มียื่น พวกนั้นล้วนแต่บำรุงรักษาสูงมาก เพราะฉะนั้นบ้านหลังนี้เน้นการบำรุงรักษาง่ายค่อนข้างเรียบง่ายทันสมัย อยู่กับธรรมชาติพอเอาทุกอย่างประกอบกันมันก็กลายเป็นบ้านยุคใหม่ที่ประหยัดพลังงานสุด ๆ
หัวใจการสร้างบ้านประหยัดพลังงาน
การออกแบบสำคัญที่สุด การออกแบบคือการวางแผน ไม่ใช่ทำตามบุญตามกรรม
มันต้องใช้ฝีมือพอสมควร เมื่อวางแผนดีแล้วสิ่งที่ตามมาคือขั้นตอนการทำงานเร็ว
มีประสิทธิภาพสูงสามารถลดต้นทุนค่าก่อสร้าง
ของอาคารอย่างต่ำลดลงไป 25% ของค่าก่อสร้างจากการที่ทำเร็วขึ้นเพราะมีเรื่องของค่าแรงมา
เกี่ยวข้องซึ่งเดี๋ยวนี้มันไม่ถูกแล้วเพราะใช้แรงงาน 8 เดือนมาเทียบกับ 1 เดือนค่าแรงมันต่างกัน 7-8 เท่า
อันที่สองพอใช้ฉนวนเยอะตัวแอร์ลดลงถึง 5-10 เท่า เคยใช้แอร์ 10 ตันก็เหลือตันเดียว
ตันเดียวประหยัดไป 10 เท่า ค่าแอร์ 10 ตัน ถ้าตันละ 3 หมื่นบาท 10 ตันก็ 3 แสนบาท
จาก 3 แสนเหลือตันเดียวก็เหลือ 3 หมื่นบาท ได้เงินมาอีก 2 แสนกว่าบาท เมื่อมีการวางแผนอย่างถูกต้องการประหยัดพลังงานได้ถึง 10 เท่า จึงเป็นเรื่องที่ทำได้
|
|
|